วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

ภานุวัตน์ซัดชัย!ฉลามชลเฉือนนาวีหวิว1-0



ภานุวัฒน์ จินตะ ลงมาเป็นซุปเปอร์ซับ ซัดประตูชัยให้ทีม "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี เฉือนเอาชนะ "ตะหานน้ำ" ราชนาวี สโมสร ไปได้แบบหวุดหวิด 1-0 ในนาทีที่ 87 ช่วยให้ทีมดังจากภาคตะวันออก เก็บ 3 คะแนนอันล้ำค่า ขยับขึ้นไปรังรองจ่าฝูงสำเร็จ


        การแข่งขันฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 เลกสอง นัดที่ 22 ของฤดูกาล ประจำวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา

    
ชลบุรี เอฟซี  1-0  ราชนาวีสโมสร



        ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 3 ของตาราง ลงสนามมา 21 นัด มี 42 คะแนน ในฐานเจ้าบ้านลงสนามพบกับ "ตะหานน้ำ" ราชนาวี สโมสร ทีมอันดับ 15 ลงสนาม 21 นัด มี 20 แต้ม โดยคู่นี้เจอกันมาเลกแรก ชลบุรี ชนะ 2-0


        เกมนี้ เจ้าบ้านพักผู้เล่นทีมชาติไทย ไว้ข้างสนามเกือบหมด ไม่ว่าจะเป็น ชลทิตย์ จันทคาม, สุทธินันท์ พุกหอม และ อดุลย์ หละโสะ ปล่อยเพียง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล กับ อาทิตย์ สุนทรพิธ ลงสนามเพียงสองคนเท่านั้น แต่ยังมี เทิดศักดิ์ ใจมั่น, พิภพ อ่อนโม้ และ คาซูโตะ คูชิดะ ลงเป็นแกนหลัก


        ส่วน ราชนาวี ที่ชนะมา 3 เกมรวด มี โอลอฟ วัตสัน, อเล็กซ์ ดา คอสต้า, วุฒิชัย อะสุชีวะ, สมพร ธัญญเจริญ และ ชิน ยัง ชอล ลงเป็นตัวหลักเหมือนเดิม โดยเกมนี้มีฝนตกลงมาตั้งแต่ช่วงบ่าย จนกระทั่งถึงเวลาแข่งขันก็ยังคงตกลงมาไม่ขาดสายทำให้สภาพสนามค่อนข้างลื่นพอ สมควร


        เริ่มเกมมาได้เพียง 3 นาที ชลบุรี เปิดฉากทักทายก่อนและเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อผู้เล่นราชนาวี พลาดท่าเสียบอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่ พิภพ อ่อนโม้ จะจ่ายให้ เนย์ ฟาเบียโน่ สับไกยิงด้วยเท้าซ้ายหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกหลังนิดเดียว


        อาคันตุกะจากสัตหีบสวนกลับเกือบได้ประตูเช่นกัน แต่จังหวะสุดท้าย สมพร ธัญญเจริญ ยิงโด่งข้ามคานออกหลังไป ก่อนที่ นาทีที่ 13 อาทิตย์ สุนทรพิธ ดาวเตะทีมชาติไทย ของชลบุรี ได้โอกาสยิงฟรีคิก 35 หลา บอลพุ่งเหมือนจะเสียบใต้คาน แต่ ชัยพร อุตตะมะรัตน์ นายทวารราชนาวี เหินตัวปัดบอลออกหลังได้หวุดหวิด


        ถัดมา 3 นาที ชลบุรีต่อบอลตามช่องอย่างสวยงาม ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะเป็น เทิดศักดิ์ ใจมั่น ที่ได้ยิงบนเส้น 18 หลา ติดบล็อกกองหลังทีมเยือนออกหลังไป


        ราชนาวี พยายามใช้ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะเข้าทำ แต่จังหวะสุดท้ายมักโดนสกัดไว้ได้ตลอด ทว่า นาทีที่ 20 กองเชียร์ราชนาวี เกือบได้เฮกันลั่นเมื่อ โอลอฟ วัตสัน เปิดบอลจากกราบซ้ายไปเสาสองให้ วุฒิชัย อะสุชีวะ โหม่งเต็มศีรษะ บอลพุ่งเหมือนจะเสียบใต้คาน แต่ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ยังไวทายาดลอยตัวปัดออกหลังไปได้อย่งสวยงาม


        ทั้งสองทีมพยายามเปิดเกมรุกเพื่อเอาประตูขึ้นนำให้ได้ แต่ด้วยสภาพสนามที่ค่อนข้างลื่น ทำให้การคอนโทรลบอลกับพื้นทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร


        อย่างไรก็ดี ท้ายเกมทั้งสองทีมมีโอกาสทำประตูฝั่งละครั้งในช่วง นาทีที่ 41 โดย ชลบุรี ได้ลุ้นก่อนจาก เนย์ ฟาเบียโน่ ที่ยิงไกล 30 หลา แต่ ชัยพร อุตตะมะรัตน์ ยังเซฟไว้ได้


        นาทีถัดมา ราชนาวี โต้กลับไว และจังหวะสุดท้าย ชิน ยัง ชอล ได้สับไกยิงแต่บอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว ทำให้จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0


        ครึ่งหลังกลับมาเล่นได้เพียง 39 วินาที ชลบุรี เกือบได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ สุรีย์ สุขะ กระชากบอลจากกลางสนามมาถึงเส้นหลังฝั่งขวาให้ พิภพ อ่อนโม้ ยิง ทว่าไม่ถนัด ทำให้บอลไม่ตรงกรอบ


        นาทีถัดมา เนย์ ฟาเบียร์โน่ ได้โหม่งจากลูกเปิดทางริมเส้นฝั่งซ้ายของ ไดกิ ฮิกูชิ ตัวสำรองที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงไปในครั้งหลัง แต่บอลเฉี่ยวเสาออกหลังอย่างน่าเสียดาย


        เกมของ ชลบุรี ดีกว่า ราชนาวี อย่างชัดเจน โดยเป็นฝ่ายครองบอลบุกได้ตลอดแต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่สามารถทำได้ ทว่า นาทีที่ 61 ราชนาวี สวนกลับไวและได้ลุ้นสับไกยิงประตูถึงสองครั้งติดต่อกัน เริ่มจาก โอลอฟ วัตสัน ที่ยิง 30 หลา แต่ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ล้มตัวปัดบอลไว้ได้ และไม่ถึงนาที เปาโล บาร์โบซ่า ตัวสำรองที่เพิ่งเปลี่ยนลงไปได้ยิงในเขตโทษแต่ "เจ้าตี๋" ยังเซฟไว้ได้อีกครั้ง


        เกมโต้กลับของ ราชนาวี ทำได้ดีและได้ลุ้นยิงประตูอย่างต่อเนื่องรวมถึง นาทีที่ 69 ที่น่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆ เมื่อ เปาโล บาร์โบซ่า เหลือบเห็น สินทวีชัย ออกมาไกลจากเส้นประตู จึงลองยิงไกล บอลพุ่งเกือบเสียบใต้คานแต่นายด่าน ทีมชาติไทย ยังถอยกลับออกไปปัดบอลออกหลังหวุดหวิด


        ราชนาวี ยังคงเล่นโต้กลับเรื่อยๆ แต่จังหวะยิงส่วนใหญ่ไม่ค่อยตรงกรอบ ขณะที่ ชลบุรี แม้จะครองบอลบุกแต่จังหวะเข้าทำยังไม่เฉียบคม อีกทั้ง ชัยพร อุตตะมะรัตน์ ผู้รักษาประตู ราชนาวี คอยออกมาตัดบอลไว้อยู่ตลอด


        ท้ายเกม ชลบุรี โหมบุกอย่างหนักหวังเอาประตูชัย และก่อนหมดเวลาเพียงแค่ 3 นาที กองเชียร์ "ฉลามชล" ได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อกองหลัง ราชนาวี เคลียร์บอลไม่ขาด ทำให้ ภานุวัฒน์ จินตะ ตัวสำรองที่เปลี่ยนตัวลงไป ตั้งป้อมปั่นบอลด้วยเท้าขวาบนเส้น 18 หลา โค้งเสียบสามเหลี่ยมเข้าประตูอย่างสวยงาม ให้ ชลบุรี ชนะ ราชนาวี 1-0 เก็บสามคะแนนพร้อมขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูงแทน เมืองทองฯ ทันที


        วาทะโค้ช 
        วิทยา เลาหกุล กุนซือ ชลบุรี เอฟซี "การจบสกอร์คือข้อบกพร่อง ที่เราต้องแก้ไขโดยด่วน โดยเฉพาะ พิภพ กับ เนย์ ฟาเบียร์โน่ ที่ประสานงานกันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ รวมถึง อาทิตย์ ด้วย หากฟอร์มยังเป็นแบบนี้ มีโอกาสที่เราจะแพ้ นาซาฟ เหมือนกัน ส่วนเกมนี้การได้ 3 แต้มถือว่าโอเค" 
        วรกร วิจารณรงค์ กุนซือราชนาวีสโมสร "น่าเสียดายที่เรายื้อไว้ได้ไม่จบเกม ซึ่งการเล่นกับทีมระดับอย่าง ชลบุรี จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด และเกมนี้ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว ทำให้แพ้ทันที อย่างไรก็ดี แม้วันนี้จะแพ้ แต่ฟอร์มโดยรวมถือว่าน่าพอใจ และคิดว่าฟอร์มแบบนี้น่าจะอยู่รอดได้"


        รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 
        ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล 6, สุรีย์ สุขะ 6, เคนเน็ต อัคคูเซ่ 5.5, ดาร์โก้ ราโคเซวิช 5.5, อนุชา กิจพงษ์ศรี 6 (ภานุวัฒน์ จินตะ 6.5), คาซูโตะ คูชิดะ 6, เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ 4.5 (อดุลย์ หละโสะ 6) เทิดศักดิ์ ใจมั่น 5.5, อาทิตย์ สุนทรพิธ 5.5 (ไดกิ ฮิกูชิ 5), เนย์ ฟาเบียร์โน่ 5.5, พิภพ อ่อนโม้ 5.5 
        ราชนาวี สโมสร : ชัยพร อุตตะมะรัตน์ 6, ชณธวัฒน์ ศรีสุข 5.5, กุศล เพ่งผล 5, ดิโอมานเด้ อดาม่า 5, สัมพันธ์ ดำสุข 5, ชิน ยัง ชอล 5.5, คัวเม่ มาติเยอร์ 5 (สุรศักดิ์ คุ้มกัน 5), โอลอฟ วัตสัน 5.5, สมพร ธัญเจริญ 5.5, อเล็ก ดา คอสต้า 6, วุฒิชัย อสุชีวะ 5.5 (เปาโล บาร์โบซ่า 5)


        แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ภานุวัฒน์ จินตะ กองกลาง ชลบุรี เอฟซี




ไฮไลท์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2011 ชลบุรี เอฟซี ชนะ ราชนาวี สโมสร 1 - 0 

http://www.siamsport.co.th/ThaiPremierLeague/result_report.asp?id=20839

บาร์ซ่าแผ่วปลาย!โซเซียดาดยิงรัวตีเสมอ2-2



        "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ออกอาการสุดจะเซ็่งหลังยกพลออกเยือน เรอัล โซเซียดาด เจ้าถิ่น และเป็นฝ่ายนำไปก่อนถึง 2-0 สุดท้ายเครื่องแผ่วถูกเจ้าถิ่นรัวยิงคืนสองเม็ดรวดจบเกมเสมอกันไป 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ในศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา


ฟุตบอลลา ลีกา สเปน
วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2554
เรอัล โซเซียดาด 2   -   2 บาร์เซโลน่า

สนาม: เอสตาดิโอ มูนิซิปัล เด อาโนเอต้า, ซาน เซบาสเตียน

        โซเซียดาด ทีมจากแคว้นบาสก์ เจ้าถิ่นวาง อิมานอล อากีร์เร็ตเซ่ ที่ซัดไปสองประตูในนัดเปิดสนามลงยืนเป็นหัวหอก

        ส่วน "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า เปิดบ้านถล่มบียาร์เรอัล 5-0 ในนัดแรกนั้น ปรับทัพเยอะทีเดียวให้ ชาบี เอร์นานเดซ ยืนคุมเกมแดนกลาง สามประสานแนวรุกเป็น เชส ฟาเบรกาส, เปโดร โรดริเกซ และ อเล็กซิส ซานเชซ โดยรายของ ลีโอเนล เมสซี่ กับ อันเดรส อิเนียสต้า มีชื่อเป็นเพียงสำรองเท่านั้น

        แนวรับไม่มี ปิเก้ ที่บาดเจ็บ ส่วน ปูโยล มีชื่อเป็นสำรอง โดยให้
อันเดรว ฟอนตาส กองหลังดาวรุ่งลงมาเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟเคียงข้างกับ เซร์คิโอ บุสเก็ตต์

        เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 10 นาที เจ้าบุญทุ่ม บุกเข้าใส่ทันทีแล้วได้ประตูออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ เชส ฟาเบรกาส ตักบอลเข้าไปในเขตโทษให้ อเล็กซิส ซานเชซ ตบกลับเข้ากลางให้ ชาบี เอร์นานเดซ วิ่งมาแปง่ายๆเข้าไปให้ บาร์เซโลน่า นำเร็ว 1-0

        ถัดมาแค่นาทีเดียว ทีมเยือนมาได้ประตูที่สอง ชาบี ตักบอลเข้าไปในเขตโทษให้ เชส ฟาเบรกาส พักอกก่อนไหลต่อให้ เปโดร โรดริเกซ ยิงไปติด เคลาดิโอ บราโว่ นายทวารโซเซียดาด บอลทะลักมาทาง เชส ปราดเข้าซ้ำตุงตาข่ายให้บาร์ซ่า หนีไปเป็น 2-0 อย่างรวดเร็ว

        ผ่านมาถึงนาทีที่ 31 บาร์เซโลน่า ต้องเปลี่ยนตัวเป็นคนแรกเมื่อ อเล็กซิส ซานเชซ โดน ดานี่ เอสตราด้า เสียบล้มลงไปได้รับบาดเจ็บ ทำให้ต้องเปลี่ยนเอา ดาบิด บีย่า ลงมาเล่นแทน

        เจ็ดนาทีต่อมา อาซูลกราน่า ได้ลุ้นอีกครั้ง เชส ฟาเบรกาส วางบอลให้ เปโดร หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนตวัดยิงด้วยขวาบอลหลุดเสาสองออกไป

        ก่อนหมดครึ่งแรกแค่นาทีเดียว เรอัล โซเซียดาด มาได้ลุ้น กรีซมันน์ วางบอลเข้าไปในเขตโทษ ดาเนียล อัลเวส โขกสกัดมาเข้าทาง ดาบิด ซูรูตูซ่า ขึ้นโหม่งชงให้ ชาบี ปรีเอโต้ กดด้วยขวาแต่บอลเบาไปเข้ามือ บิคตอร์ บัลเดส หมดครึ่งแรก บาร์เซโลน่า บุกนำ 2-0


        มา เล่นกันต่อในครึ่งหลังเจ้าบ้านแก้เกมมาดี ดาเนี่ยล เอสตราด้า ครอสให้กับ อิมานอล อากีร์เร็ตเซ่ ตะบันด้วยขวาบอลเฉี่ยวเสาซ้ายออกไป

        อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 59 เจ้าถิ่นตีไข่แตกสำเร็จ จากจังหวะที่ ชาบี ปริเอโต้ โยนมาให้กับ อิมานอล อากีร์เร็ตเซ่ เทคตัวโหม่งจากกลางกรอบเขตโทษบอลเสียบมุมซ้ายเข้าไปให้โซเซียดาด ตามมาเป็น 1-2
และเป็นประตูที่สามของ อากีร์เร็ตเซ่ จากการลงสนามสองนัดในซีซั่นนี้

        นาทีต่อมา โซเซียดาด ตามมาตีเสมอ 2-2 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ จากจังหวะที่ ดาบิด บีย่า จ่ายบอลคืนหลังไม่ดีเลยโดน อิมานอล อากีร์เร็ตเซ่ พาบอลโต้กลับเร็วขึ้นมาแตะหลบ บัลเดส นายทวารบาร์ซ่า ไปได้แล้วซัดชนคานมาเข้าทางของ อ็องตวน กรีซมันน์ ดาวเตะชาวฝรั่งเศส โหม่งจ่อๆเข้าไป ทำให้แฟนบอลเจ้าบ้านเฮกันลั่นสนาม

        สถานการณ์ทีมเยือนไม่ดีเลยต้องเปลี่ยนเอา ลีโอเเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ ลงสนามมาแทน ติอาโก้ อัลกานตาร่า ดาวรุ่งของทีม ในนาที 63

        ถัดมานาทีเดียว ดาบิด บีย่า หัวหอกของบาร์ซ่า รับบอลมาจาก ชาบี ก่อนยิงด้วยขวาบอลหลุดเสาสองไป

        เกมของบาร์ซ่ายังกดดันอยู่ นาที 67 เมสซี่ ยิงด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษถูก บราโว่ ปัดทิ้งออกหลังไปได้

        มาถึงนาทีที่ 70 โซเซียดาด เปลี่ยนเอา ลาสซีน กาดามูโร่ ลงสนามแทน ชาบี ปริเอโต้

        ท้ายเกมนาที 76 เมสซี่ ยิงด้วยขวามุมแคบแต่โดนป้องกันไว้ได้อีก จบเกม โซเซียดาด ทำได้เยี่ยมเปิดบ้านเสมอกับ บาร์เซโลน่า ไปสุดมัน 2-2 แบ่งแต้มกันไป

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        เรอัล โซเซียดาด: เคลาดิโอ บราโว่ - ดานี่ เอสตราด้า, วาดิม เดมิดอฟ, อินญิโก้ มาร์ติเนซ, อัลเบร์โต้ เด ลาเบย่า - อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้, แม็คโดนัลด์ มาริก้า - ดาบิด ซูรูตูซ่า, ชาบี ปรีเอโต้, อ็องตวน กรีซมันน์ - อิมานอล อากีร์เร็ตเซ่

        สำรอง: ซูบิกาเร (ผู้รักษาประตู) - ดีเอโก้ อิฟราน, มิเกล อรานบูรู, มิเกล กอนซาเลซ, คาร์ลอส เวล่า, รูเบน ปาร์โด้, กาดามูโร่

        บาร์เซโลน่า: บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนียล อัลเวส, เซร์คิโอ บุสเก็ตต์, อันเดรว ฟอนตาส, อาเดรียโน่ คอร์เรอา - เซย์ดู เกอิต้า, ติอาโก้ อัลกานตาร่า, ชาบี เอร์นานเดซ (กัปตันทีม) - เชส ฟาเบรกาส, เปโดร โรดริเกซ, อเล็กซิส ซานเชส

        สำรอง: โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ (ผู้รักษาประตู) - ลีโอเนล เมสซี่, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, เอริก อบิดัล, ดาบิด บีย่า, อันเดรส อิเนียสต้า, การ์เลส ปูโยล

        ผู้ตัดสิน: มาเตว ลาออซ

สรุปผล ฟุตบอลลา ลีกา สเปน- เรอัล โซเซียดาด เสมอ บาร์เซโลน่า  2 - 2
- บียาร์เรอัล เสมอ เซบีย่า  2 - 2
01.00 น. เรอัล มาดริด - เคตาเฟ่
03.00 น. บาเลนเซีย - แอตเลติโก มาดริด



http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/110911_011.html

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

สาวเครียดเทศกิจยึดแผงค้ามีดจี้คอลูกชาย “บิณฑ์” ฮีโร่พุ่งชาร์จตัวเด็ก

ระทึก...หญิงสาวคลั่ง มีดจี้คอลูกชายวัย 1 ขวบเป็นตัวประกัน ร้องขอความเป็นธรรมถูกเทศกิจยึดแผงค้าหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ จนไม่มีที่ทำกิน ไทยมุงแห่ดู จนท.ต้องกันให้ห่างออกจากพื้นที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” สวมบทฮีโร่พุ่งชาร์จคว้าตัวเด็กได้อย่างปลอดภัย ก่อนนำตัวเด็กและแม่เด็กส่ง รพ.ขณะที่บรรดาผู้ค้า เชื่อ สาเหตุน่ามาจากความเครียดที่แม่เด็กร้องเรียนเรื่องแผงค้ากับเขตปทุมวัน แต่เรื่องเงียบ จึงทำให้มาก่อเหตุ
      
       วันนี้ (9 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.ท.ธนัช เมฆะธรรมเดช สวป.สน.ปทุมวัน รับแจ้งเหตุหญิงสาวคลุ้มคลั่งจับเด็กเป็นตัวประกัน เหตุเกิดบริเวณรั้วคอนกรีตริมทางเท้าด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ฝั่งอิเซตัน ถ.ราชดำริ แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม.จึงรุดไปตรวจสอบ
      
       ที่เกิดเหตุพบไทยมุงจำนวนมากกำลังมุงดู น.ส.ปริมฤดี เจริญกำชัย อายุ 24 ปี กำลังใช้มีดสับผลไม้ยาวประมาณ 12 นิ้ว จี้ ด.ช.ฐานะพัฒน์ เจริญกำชัย หรือ น้องอั่งเปา อายุ 1 ขวบ ซึ่งเป็นบุตรชายเป็นตัวประกัน พร้อมขู่ไม่ให้ใครเข้าใกล้ มิฉะนั้น จะทำร้ายเด็ก นอกจากนี้ ยังด่าทอเจ้าหน้าที่เทศกิจ และร้องขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับแผงค้า ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจยึดไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้พยายามกันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกห่างจากที่เกิดเหตุ เนื่องจากเกรงว่า น.ส.ปริมฤดี จะเครียดและทำร้ายเด็ก เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้ปล่อยเด็ก แต่ไม่เป็นผล กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชม.จังหวะที่ น.ส.ปริมฤดี เผลอ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าชาร์จตัว น.ส.ปริมฤดี โดยที่เด็กไม่ได้รับอันตราย ก่อนนำตัว น.ส.ปริมฤดี และด.ช.อั่งเปา ส่ง รพ.ตำรวจ
      
       จากการสอบสวน นายจิตวิสุทธิ์ ภู่วงษ์ อายุ 28 ปี พ่อค้าขายน้ำดื่ม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.ปริมฤดี เคยเปิดแผงขายชุดชั้นในสตรีอยู่บริเวณริมทางเท้าตรงข้ามกับร้านน้ำของตน ก่อนเกิดเหตุ น.ส.ปริมฤดี ได้มาปรับทุกข์ให้ฟัง ว่า เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาได้ถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจยึดแผงค้า ทั้งที่ได้จ่ายค่ารายเดือนให้กับเจ้าหน้าที่เทศกิจโดยตลอด แม้จะพยายามร้องขอความเป็นธรรม กับทางสำนักงานเขตปทุมวัน แต่ไม่ได้รับการเหลียวแล ประกอบกับมีหนี้สิน และต้องเลี้ยงดูบุตรชายเพียงลำพัง ทำให้เกิดความเครียด จึงได้มาก่อเหตุดังกล่าว
      
       ด้าน นายดี เรือน อายุ 22 ปี ชาวกัมพูชา พ่อค้าขายผลไม้ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลา 11.30 น.เห็น น.ส.ปริมฤดี อุ้มบุตรชายเดินไป-มาบริเวณริมทางเท้า ก่อนที่จะเดินมาที่รถเข็นผลไม้ของตน ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ก่อนหยิบมีดสับผลไม้ที่วางอยู่บนตู้ พร้อมกล่าวว่า ขอยืมไปใช้ก่อนเดี๋ยวนำมาคืน พอตนหันหน้ามาเห็น น.ส.ปริมฤดี นั่งอยู่ที่บริเวณรั้วคอนกรีตริมฟุตปาท พร้อมถือมีดสับผลไม้จี้ที่ตัวบุตรชาย พร้อมตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่เทศกิจ ร้องโวยวายขอความเป็นธรรม
      
       ด้าน บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งได้เข้าชาร์จตัว น.ส.ปริมฤดี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับแจ้งว่า มีหญิงสาวจับเด็กชายซึ่งเป็นลูกของตนเองเป็นตัวประกัน เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่งตนประเมินว่า หญิงสาวรายนี้มีเจตนาเพียงต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมเกี่ยวกับแผงค้าที่ ถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจยึดไป เคยไปร้องกับทางเขต แต่เรื่องก็เงียบไป ทำให้ต้องมาก่อเหตุดังกล่าว คงจะไม่ทำร้ายเด็กอย่างแน่นอน ซึ่งก่อนที่จะเข้าชาร์จ ตนอาศัยจังหวะที่มีดห่างจากตัวเด็ก คิดว่า หากเข้าชาร์จในจังหวะนั้น ตัวเด็กจะไม่ได้รับอันตราย จึงได้สินใจเข้าชาร์จโดยทันที

http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9540000114693

ชุดแข่งขันของทีมชาติไทย


ชุดแข่งขันของทีมชาติไทย

ไนกี้ ร่วมกับสมาคมลูกหนังไทย เปิดตัวชุดแข่งใหม่ของทัพนักเตะทีมชาติไทย เน้นเอกลักษณ์ท้องถิ่น โดยจะใช้อย่างเป็นทางการในศึกชิงแชมป์อาเซียน หรือ ซูซูกิ คัพ 2010
โดยนางสาวพิณรัตน์ ทัศนะพยัคฆ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไนกี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัวชุดแข่งใหม่ของทีมชาติไทยในครั้งนี้ว่า "การพัฒนาชุดแข่งขันสำหรับทีมชาติสื่อถึงเจตนารมณ์ของไนกี้ในการนำเสนอนวัตกรรมเพื่อช่วยเสริมศักยภาพของนักกีฬา โดยเรามุ่งมั่นที่จะนำประสบการณ์ ตลอดจนความรู้ความชำนาญในกีฬาฟุตบอล เพื่อช่วยให้นักเตะไทยสามารถแสดงฝีเท้าและทำผลงานได้อย่างดีที่สุด ผ่านเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ใช้ในการผลิตชุดแข่งขัน และเรายังตั้งใจที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการนำขวดพลาสติกที่นำกลับมาใช้ใหม่เป็นวัตถุดิบในการผลิต สำหรับรายละเอียดการออกแบบ เราคำนึงถึงวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของชาติไทย ซึ่งไนกี้ตระหนักดีถึงความภาคภูมิใจที่นักกีฬาได้รับจากการลงสนามในฐานะตัวแทนของประเทศ ดังนั้น ชุดแข่งขันใหม่นี้จึงได้รับการออกแบบให้สื่อถึงมรดกและวัฒนธรรมด้านฟุตบอลอันเป็นเอกลักษณ์ของทีมชาติไทย"
ขณะที่นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า "สำหรับชุดแข่งขันใหม่นี้ สมาคมฯได้ทำงานร่วมกันกับไนกี้อย่างใกล้ชิดเพื่อนำเสนอและสะท้อนถึงเอกลักษณ์ ความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทยรวมถึงคุณค่าของการได้สวมชุดทีมชาติ เพื่อกระตุ้นให้นักเตะมีความมั่นใจและสามารถทำผลงานได้ดีตลอดระยะเวลาที่พวกเขาลงทำหน้าที่เพื่อชาติ เราหวังว่าชุดแข่งขันใหม่นี้จะเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของแฟนฟุตบอลชาวไทยทุกคน"
สำหรับชุดแข่งขันทีมเหย้าของทีมชาติไทย (เสื้อเจอร์ซี่ กางเกงขาสั้น และถุงเท้า) เป็นสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ส่วนชุดแข่งขันทีมเยือน (เสื้อเจอร์ซี่ กางเกงขาสั้น และถุงเท้า) ใช้สีน้ำเงิน เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทยที่มีต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถฯ โดยสีน้ำเงินเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของพระองค์
ทั้งนี้เสื้อแข่งขันทีมเหย้าและทีมเยือนชุดใหม่ของแข้ง "ช้างศึก" ถูกประดับด้วยด้วยลายธงไตรรงค์ที่พาดผ่านบริเวณหน้าอก เพื่อแสดงถึงเอกลักษณ์และเสริมความรู้สึกรักชาติ มีตราสัญลักษณ์สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ บริเวณหน้าอกเสื้อด้านซ้าย เพื่อแสดงถึงความรู้สึกภาคภูมิใจและความเคารพของนักฟุตบอลที่ได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของชาติ
ด้านภายในของเสื้อ ตำแหน่งเดียวกับตราสัญลักษณ์ของสมาคมฟุตบอลฯ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่จัดวางในเชิงสัญลักษณ์ให้อยู่เหนือหัวใจ มีข้อความประวัติศาสตร์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจว่า "ไชโย" ซึ่งเป็นคำที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ตรัสขึ้นระหว่างทอดพระเนตรเกมการแข่งขันนัดแรกระหว่างทีมชาติไทยกับทีมรวมชาวต่างชาติ ณ ราชกรีฑาสโมสร ซึ่งทีมไทยเป็นฝ่ายชนะด้วยสกอร์ 2 - 1
ขณะที่บริเวณคอเสื้อด้านในได้มีการอัญเชิญสัญลักษณ์ "ชฎา" ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์แรกของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ใน พระบรมราชูปถัมภ์ ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ รวมทั้งเป็นเครื่องเตือนใจในการไขว่คว้าความสำเร็จในฐานะทีมชาติไทย
สำหรับชุดแข่งขันดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ในการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 เดือนธันวาคมนี้ และมีวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายนนี้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก manager.co.th

สนามเหย้าทีมชาติไทย


สนามราชมังคลากีฬาสถาน

ราชมังคลากีฬาสถาน (อังกฤษ: Rajamangala National Stadium) เป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยเป็นสนามหลักภายในสนามกีฬาหัวหมาก
สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ และ พระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๑
สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2541 เพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพ
ความสามารถในการรองรับผู้เข้าชมภายในอาคาร จำนวน 80,000 คน ความสามารถในการรองรับผู้เข้าชม (อัฒจันทร์) จำนวน 49,749 ที่นั่ง เป็นเก้าอี้นั่งทั้งหมด ภายในมีสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐาน ลู่วิ่ง ลานกรีฑา และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ
ราชมังคลากีฬาสถาน เป็นสนามเหย้าของฟุตบอลทีมชาติไทย และใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ยังใช้จัดคอนเสิร์ตกลางแจ้ง และการถ่ายทำภาพยนตร์ เป็นต้น
เหตุการณ์สำคัญ
6 และ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2541 พิธีเปิดและปิด การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
6 และ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 พิธีเปิดและปิด การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนหญิงชิงแชมป์โลก ยู-19 ครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
8 ถึง 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 พิธีเปิดการแข่งขัน และรอบ 8ทีมสุดท้ายเอเชียนคัพ 2007 พ.ศ. 2550 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
8 และ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2550 พิธีเปิดและปิด การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก th.wikipedia.org และภาพจาก thaifootball.com

ตารางถ่ายทอดฟุตบอล


<div id="container2">
<iframe frameborder="5" height="860" name="nm777" name?vid?="" scrolling="no" src="http://zevenzero.blogspot.com/2011/08/ss1.html" style="zoom: 100%;" width="720"></iframe>  &nbsp;</div>
<script src="" type="text/javascript">
</script><style type="text/css">
<!--
#container2 {
border:none;
overflow:hidden;
}

#container2 iframe {
margin-left:-30px;
margin-top:-380px;
border:none;
}

-->
</style>